31.2 C
Bangkok
วันพฤหัสบดี 28 มีนาคม 2024

8 วิธีกำจัดขน เพื่อผิวสาวเนียนสวย ไม่ว่าจะเป็นที่แขน ขา รักแร้ เป็นต้น

Must read

One
Onehttp://www.bkkparttime.com/
เว็บรวมงานพาร์ทไทม์ ฟลูไทม์ จากบริษัทชั้นนำทั่วประเทศ

ขน” มนุษย์ทุกคนมีขนตามร่างกายตามปกติอยู่แล้ว จะมีมากมีน้อยขึ้นอยู่กับโฮโมน แต่… สำหรับผู้หญิง ขน คืออุปสรรคความงามไม่ใช่น้อย โดยเฉพาะขนที่ขึ้นตรง รักแร้ หรือ ขา ถ้ามันมีมากไปเวลาใส่ชุดสั้นๆ อวดผิวสวยก็จะทำให้เห็นขนอันไปพึ่งประสงค์ได้ เมื่อเป็นเช่นนี้ วิธีกำจัดขนสารพัดรูปแบบจึงถูกงัดขึ้นมาใช้ เพื่อกำจัดขนบริเวณต่างๆ ของร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นที่แขน ขา รักแร้ เป็นต้น วันนี้เราเลยขอหยิบวิธีกำจัดขนง่ายๆ ซึ่งคุณสามารถทำได้เอง ไปจนถึงวิธีกำจัดขนถาวร แบบว่าถอนรากถอนโคนกันเลยค่ะ

8 วิธีกำจัดขน เพื่อผิวสาวเนียนสวย

flowerถอน : การถอนเป็นวิธีกำจัดขนแบบดั้งเดิมที่สุด อุปกรณ์มีเพียงแหนบเท่านั้น สามารถกำจัดขนได้สิ้นซากไปทั้งราก ทำให้ผิวเรียบเนียนได้นานกว่าขนชุดใหม่จะงอกออกมา แต่ว่าไม่เหมาะกับการกำจัดขนปริมาณมากๆ อย่างเช่น ขนหน้าแข้ง หรือแม้แต่ขนรักแร้ ซึ่งแม้จะถอนเองได้จริง แต่ก็เมื่อยคอและปวดตาน่าดู

flowerโกน : วิธีกำจัดขนยอดนิยม ที่ทั้งถูก ง่าย สะดวก และทำได้รวดเร็ว คงไม่มีอะไรเหนือไปกว่าการโกน เพื่อรักษาผิวที่เรียบไร้เส้นขนได้สม่ำเสมอ คุณอาจต้องโกนทุกๆ 2-3 วัน เพราะขนสามารถงอกกลับได้ไว อย่างไรก็ตามการโกนทำให้เสี่ยงกับอาการอักเสบของผิวจากการใช้ใบมีดโกน หรือ razor burn นอกจากนี้ขนที่งอกออกมาหลังการโกนยังมีลักษณะเหมือนเสี้ยน แทงผิว บางคนอาจมีอาการคัน บ้างประสบปัญหาขนคุด แถมขนที่ขึ้นมาแล้วยังดูดำ และหนากว่าการถอนแบบธรรมดาด้วย

flowerแว็กซ์ : การแว็กซ์เป็นการกำจัดขนที่ให้ผลที่น่าพึงพอใจ คือกำจัดขนได้ถึงราก มีผิวเรียบเนียนได้นาน (บางรายอาจนาน 1-2 เดือนเลยทีเดียว) แต่ก็มีผลข้างเคียงเล็กๆ น้อยๆ ก็คือความเจ็บขณะถูกแว็กซ์นั่นเอง อย่างไรก็ดีจะเจ็บอยู่เพียงครู่เดียวเท่านั้น (เพราะหลังจากนั้นมักชา ^^”) เพื่อให้การแวกซ์ได้ผลดี ควรปล่อยขนให้ยาวอย่างน้อย 1 เซนติเมตร จะเหมาะสมต่อการกำจัดขนด้วยวิธีการนี้ที่สุด

แว็กซ์น้ำตา : วิธีการกำจัดขนด้วยน้ำตาล (sugaring) หรือที่เรียกว่าแว็กซ์น้ำตาลนั้น มีหลักการเหมือนการแว็กซ์ แต่การแว็กซ์น้ำตาลจะเป็นแว็กซ์ร้อนเท่านั้น โดยส่วนผสมหลักของแว็กซ์มาจากการนำน้ำตาล น้ำผึ้ง และน้ำมะนาว ตั้งไฟอ่อนเคี่ยวจนข้นและหนืดเหนียว ทิ้งให้พออุ่นๆ จึงนำมาทาผิวใช้เป็นแว็กซ์ได้ โดยวิธีการนี้ไม่จำเป็นต้องใช้แถบผ้าสำหรับแว็กซ์ เพราะตัวน้ำตาลเองมีความหนืดมากอยู่แล้ว เพียงปาดหนา ๆ ไปบนผิวแล้วลอกออกมา ขนก็จะหลุดติดออกมาด้วย วิธีการนี้อาจทำให้รู้สึกเจ็บกว่าการแว็กซ์ปกติ (เพราะแว็กซ์น้ำตาลจะลอกออกที่ละนิด ไม่ได้ดึงรวดเดียวหมดแบบแว็กซ์) แต่ก็อ่อนโยนกับผิวมากกว่าแวกซ์แบบธรรมดาเช่นกัน

flowerครีมกำจัดขน : การใช้ครีมกำจัดขนเริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้นในปัจจุบัน เนื่องจากทำวิธีการไม่ยุ่งยาก ไม่เจ็บ และได้ผิวที่เรียบเนียนน่าพึงพอใจ วิธีใช้แค่ทาลงบนผิวและทิ้งไว้ตามระยะเวลาตามที่ผลิตภัณฑ์แนะนำ สารเคมีในครีมจะกัดกร่อนเส้นขนให้อ่อนตัว เมื่อครบเวลาจึงสามารถเช็ดหรือล้างออกได้โดยง่าย แต่ก็มีข้อพึงระวังที่ไม่ควรทิ้งเวลาไว้นานกว่าที่ผลิตภัณฑ์แนะนำ ผิวอาจไหม้จากส่วนประกอบเคมีในครีมได้ นอกจากนี้ครีมกำจัดขนส่วนใหญ่ยังมีกลิ่นที่ค่อนข้างฉุนด้วย

flowerถอนขนด้วยเส้นด้าย : วิธีการถอนขนด้วยเส้นด้าย (threading หรือ มังหมิ่ง ในภาษาจีน) เป็นวิธีการที่ใช้กันมาแต่โบราณถือกำเนิดในภูมิภาคเอเชีย มักใช้กำจัดขนที่ใบหน้า และสามารถใช้กันคิ้วได้ด้วย หลักการคือการเกลียวเชือกกับเส้นขนบนใบหน้าแล้วดึงออกอย่างรวดเร็ว หลังการทำผิวหน้าจะเนียนและลื่นมือขึ้น เป็นที่นิยมในหมู่ผู้หญิงที่มีไรหนวดที่มุมปาก หรือมีไรขนอ่อนๆ ขึ้นบนใบหน้า

flowerเลเซอร์ : การเลเซอร์เป็นการกำจัดขนระยะยาว แต่ขนก็สามารถขึ้นกลับมาบาง ๆ ได้ในภายหลัง (2-5 ปี) หลักการคือใช้เลเซอร์ทำลายรากขน ซึ่งต้องทำหลายครั้งจึงจะเริ่มเห็นผลที่ชัดเจน เมื่อรากขนอ่อนแอ ขนก็จะมีสีอ่อนลง บางลง ไปจนถึงหยุดเติบโต อย่างไรก็ดีวิธีการนี้มีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับวิธีอื่นๆ และใช้ได้ผลดีที่สุดกับคนผิวขาวที่มีขนสีเข้ม

flowerจี้ขนด้วยคลื่นวิทยุ : การจี้ขนด้วยคลื่นวิทยุเป็นการกำจัดขนแบบถาวร โดยใช้เข็มขนาดเล็กมากสำหรับสื่อคลื่นวิทยุสอดลงไปที่รูขุมขน และปล่อยคลื่นออกไปจี้ทำลายรากขน วิธีนี้เป็นการทำลายรากขนแบบถาวร เมื่อรากขนโดนทำลายไปแล้วขนเส้นนั้นก็จะไม่งอกขึ้นมาอีกเลย อย่างไรก็ดีเป็นวิธีที่เจ็บที่สุด (เจ็บทุกครั้งที่เข็มสอดลงไป เว้นแต่มีการฉีดยาชา หรือประคบผิวให้เย็นจัด) และมีค่าใช้จ่ายสูงมาก แต่ก็นับว่าเป็นการแลกเปลี่ยนที่คุ้มค่า เพราะสามารถกำจัดขนได้ถอนรากถอนโคน และได้ผลถาวรนั่นเองค่ะ

More articles

- Advertisement -

Latest article