Home Knowledge 17 แมวมงคล เลี้ยงไว้ให้โชควาสนา ทรัพย์เพิ่มพูน ตามตำราดูลักษณะแมว

17 แมวมงคล เลี้ยงไว้ให้โชควาสนา ทรัพย์เพิ่มพูน ตามตำราดูลักษณะแมว

17 แมวมงคล เลี้ยงไว้ให้โชควาสนา ทรัพย์เพิ่มพูน ตามตำราดูลักษณะแมว

ผู้เขียนได้มีโอกาสอ่านหนังสือเก่าเล่มหนึ่งพิมพ์เมื่อ พ.ศ.2506 กล่าวถึงลักษณะของ แมวมงคล เชื่อว่า… ผู้ใดเลี้ยงไว้จะให้โชค ให้ลาภ ทรัพย์สินเพิ่มพูน ทางเราเห็นว่าหนังสือเล่มนี้น่าจะเป็นประโยชน์กับผู้อ่านจึงนำมาแบ่งปัน

นิลรัตน์

นิลรัตน์

สมยานามชาตเชื้อ นิลรัตน์
กายดำสิทธิสามรรถ เลอศพร้อม
ฟันเนตรเล็บลิ้นทัด นิลคู่ กายนา
หางสุดเรียวยาวน้อม นอมโน้มเสมอเศรียร

นิลรัตน์ เป็นแมวไทยชนิดหนึ่ง มีขนสีดำวาวทั้งตัว ไม่มีสีอื่นปะปน มีขนสั้นเส้นเล็กละเอียดนุ่มและเรียบตรงทั้งลำตัว มีเล็บดำ ลิ้นดำ ฟันดำ และนัยน์ตาสีดำ หางเรียวยาวตวัดได้ถึงศีรษะ หากใครเลี้ยงไว้จะได้ทรัพย์สินเพิ่มพูน

วิลาศ

ราวคอทับถงาดท้อง สองหู
ขาวตลอดหางดู ดอกฝ้าย
มีเศวตสี่บาทตรู สองเนตร เขียวแฮ
นามวิลาศงามคล้าย โภคพื้นกายดำ

วิลาศ มีสีดำเกือบทั้งตัว ขนเรียบ ยกเว้นใบหูทั้งสองข้าง ปากล่างลงมาถึงหน้าอก ปลายเท้าทั้งสี่ และจากท้ายทอยบนหลังจนถึงปลายหางมีสีขาว หางเรียวยาว นัยน์ตาสีเข้ม รูปร่างสวยงามน่ารัก ใครเลี้ยงจะได้เป็นเจ้าคนนายคน มีทรัพย์สินบริบูรณ์

ศุภลักษณ์ หรือ ทองแดง

เฉิดโฉมสุภลักษณ์ล้ำ วิลาวรรณ
สีดังทองแดงฉัน เพริศแพร้ว
แสงเนตรเฉกแสงพรร โณภาส
กันสรรพโทษแคล้ว สิ่งร้ายคืนเกษม

ศุภลักษณ์ หรือ ทองแดง เป็นแมวขนสั้น สีน้ำตาลเข้มคล้ายสีสนิม (สีทองแดง) มีดวงตาสีเหลืองๆ ออกสีอำพัน หนวดมีสีเหมือนลวดทองแดง หูใหญ่ บริเวณส่วนหู ใบหน้า ปลายขา หาง จะมีสีน้ำตาลเข้มกว่าบริเวณลำตัวทั่วๆ ไป หางยาว ปลายหางแหลมชี้ตรง โคนหางใหญ่และค่อยๆ เล็กเรียวกลมไปจนสุดปลายหาง ขาวยาวเรียวได้สัดส่วนกับลำตัว หากใครเลี้ยงไว้จะแคล้วคลาด ปลอดภัย

เก้าแต้ม

สลับดวงคอศิระต้น ขาหลัง
สองไหล่กำหนดทั้ง บาทหน้า
มีโลมดำบดบัง ปลายบาท สองแฮ
เก้าแห่งดำดุจม้า ผ่านพื้นขาวเสมอ

เก้าแต้ม เป็นแมวสีขาว มีสีดำแต้มสีดำรวมเก้าแห่ง คือ บริเวณหัว คอ โคนขาหน้าและโคนขาหลังหลังทั้ง 4 ข้าง ไหล่ทั้ง 2 ข้าง และโคนหาง ลักษณะแต้มสีดำนี้จะเป็นวงกลมหรือปื้นเหลี่ยมก็ได้ ปลายหางเรียวยาว สีขาว ใครได้แมวเก้าแต้มไว้เลี้ยงดูก็จะทำให้การค้าขายรุ่งเรือง ร่ำรวย คนไทยโบราณมักเลี้ยงไว้ในพระราชสำนัก

มาเลศ หรือ ดอกเลา

วิลามาเลศพื้น พรรณกาย
ขนดังดอกเลาราย เรียบร้อย
โคนขนเมฆมอปลาย ปลอมเศวต
ตาดั่งน้ำค้างย้อย หยายต้องสัตบง

มาเลศ หรือ ดอกเลา (แมวโคราช) เป็นแมวขนสั้น สีสวาด ทั่วทั้งตัว หน้าผากใหญ่และแบน หูตั้ง ปลายหูมน โคนหูใหญ่ ผิวหนังที่บริเวณจมูกและริมฝีปากสีเงิน หรือม่วงอ่อน นัยน์ตาสีเขียวสดใสเป็นประกาย หรือสีเหลืองอำพัน เมื่อยังเป็นลูกแมวตาจะออกสีฟ้าโตขึ้นจะค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีเหลืองสด และเมื่อเติบโตเต็มที่ ตาจะเปลี่ยนเป็นสีเขียวใบไม้ หรือสีเหลืองอำพัน หางยาว ปลายแหลมชี้ตรง โคนหางใหญ่และค่อยๆ เล็กเรียวกลมไปจนสุดปลายหาง ขายาวเรียวได้สัดส่วนกับลำตัว มีความเชื่อว่าผู้ใดเลี้ยงจะนำโชคลาภมาให้
หมายเหตุ : แมวโคราช เป็นชื่อที่ได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ปัจจุบันแมวโคราชขึ้นทะเบียนเป็นสัตว์ประจำชาติไทยในปี พ.ศ.2552

แซมเศวต

ขนดำแซมเศวตสิ้น สรรพางค์
ขนคู่โลมกายบาง แบบน้อย
ทรงระเบียบเรียงสำอาง เรียวรุ่น งามนา
ตาดั่งแสงหิ่งห้อย เปรียบน้ำทองทา

แซมเศวต เป็นแมวที่มีขนสีดำ แซมด้วยสีขาวไปทั้งตัว ขนบางและค่อนข้างสั้น รูปร่างบางเพรียว ตามีสีเขียวเหมือนแสงหิ่งห้อย หางเรียวยาว เป็นแมวที่หายากที่สุดในประเทศไทย มีหลายท่านบอกว่า… แมวแซมเศวตอาจไม่มีอยู่จริง เพราะมันคือ แมวโกญจา ที่เกิดความผิดปกติด้วยภาวะ “Fever Coat” หรือ “แมวป่วย” เกิดขึ้นตอนแม่แมวตั้งท้องแล้วมีอาการไข้ ส่งผลต่อการสร้างเม็ดสีที่ขนของลูกแมวในครรภ์ จึงทำให้มีสีขาวแซม ซึ่ง ณ ปัจจุบันยังไม่มีหลักฐานยืนยันแน่ชัดเกิดจากการป่วยหรือไม่

รัตนกัมพล

สมยากาเยศย้อม สีสังข์
ชื่อรัตนกัมพลหวัง ว่าไว้
ดำรัดรอบกายจัง หวัดอก หลังนา
ตาดั่งเนื้อทองได้ หกน้ำเนียนแสง

รัตนกำพล เป็นแมวที่มีขนสีขาวดั่งหอยสังข์ ยาวจรดหาง ยกเว้นบริเวณลำตัวจะมีสีดำคาดไว้ มีนัยน์ตาสีทอง หางเรียวยาว ถ้าใครเลี้ยงไว้จะมียศถาบรรดาศักดิ์ และอำนาจบารมี

วิเชียรมาศ หรือ แมวแก้ว

ปากบนหางสี่เท้า โสตสอง
แปดแห่งดำดุจปอง กล่าวไว้
สีเนตรดั่งเรือนรอง นาคสวาดิ ไว้เอย
นามวิเชียรมาสไซร้ สอดพื้นขนขาว

วิเชียรมาศ หรือ แมวแก้ว เป็นแมวไทยโบราณ ขนสั้นแน่นสีขาว หรือสีน้ำตาลอ่อน มีแต้มสีครั่ง หรือสีน้ำตาลไหม้ที่บริเวณใบหน้า หูทั้งสองข้าง เท้าทั้งสี่ หางและที่อวัยวะเพศ รวมเก้าแห่ง ขณะที่ยังเป็นลูกแมว ขนจะออกสีครีมอ่อนๆ หรือขาวนวล พอโตขึ้นสีจะค่อยๆ เข้มขึ้นตามลำดับจนเป็นสีน้ำตาล (สีลูกกวาด) หัวไม่กลมหรือแหลมเกินไป หน้าผากใหญ่และแบน จมูกสั้น หูใหญ่ ตั้งสูงเด่นบนส่วนหัว ตาสีฟ้า ขายาวเรียวได้สัดส่วนกับลำตัว หางยาวปลายแหลมชี้ตรง โคนใหญ่และค่อยๆ เล็กเรียวกลมไปจนสุดปลายหาง

นิลจักร

นิลจักรบอกชื่อช้อย ลักขณา
กายดุจกลปีกกา เทียบแท้
เศวตรอบรัดกรรฐา โดยที่
เนาประเทศได้แม้ ดั่งนี้ควรถนอม

นิลจักร เป็นแมวสีดำคล้ายกับแมวโกญจา แต่… บริเวณลำคอมีขนขาวเป็นวง เหมือนมีจักรหรือพวงมาลัยคล้องคอ ใครเลี้ยงไว้จะช่วยให้มีทรัพย์สินเงินทอง

มุลิลา

มุลิลาปรากฎแจ้ง นามสมาน
ใบโสดสองเควตปาน ปักล้วน
สีตาผกาบาน เบญมาส เหลืองนา
หางสุดโลมดำถ้วน บาทพื้นกายเศียร

มุลิลา เป็นแมวไทยขนสีดำ ขนเรียบเป็นมัน แต่บริเวณหูทั้งสองข้างมีสีขาว นัยน์ตาสีเหลืองราวกลีบดอกเบญจมาศ โบราณว่าไว้เลี้ยงได้เฉพาะพระสงฆ์ ไม่ควรเลี้ยงตามบ้าน เหตุผลนั้นเพราะบทกวีที่ว่า “หนึ่งด่างสองหูโดยหมาย ตำราท่านทาย ว่าควรจะเลี้ยงแต่สงฆ์ เล่าเรียนสิ่งใดมั่นคง มิได้ลืมหลงสำเร็จดังความปรารถนา” กล่าวกันว่าพระสงฆ์ควรจะเลี้ยงแมวมุลิลา เพื่อช่วยให้มีจิตใจตั้งมั่นในการเล่าเรียนไม่ออกนอกลู่นอกทาง หูสีขาวของแมวเปรียบดังหูทิพย์ ส่งเสริมให้นักปราชญ์หรือพระสงฆ์สามารถศึกษาพระธรรมหรือเล่าเรียนสำเร็จตามปรารถนา

กรอบแว่น หรือ อานม้า

หนึ่งนามกรอบแว่นพื้น เศวตผา
ขนดำเวียนวงตา เฉกย้อม
เหนือหลังดั่งอานอา ชาชาติ
งามดั่งวงหมึกพร้อม อยู่ด้าวใดแสวง

กรอบแว่น หรือ อานม้า เป็นแมวมีขนสีขาวทั้งตัว ยกเว้นกลางหลังจะมีสีดำเหมือนอานม้าอยู่ และบริเวณขอบตาทั้งสองข้างเป็นสีดำ เหมือนกรอบแว่นตา ใครเลี้ยงไว้จะมีค่ามหาศาล และทำให้มีชื่อเสียง เกียรติยศ

ปัดเสวตร หรือ ปัดตลอด

ปัดเศวตลักษณนั้น ปลายนา สาแล
ขาวตลอดหางหา ยากพร้อม
ระลุมเฉกสลับตา กายเฟ็ด เดียวแฮ
ตาดั่งคำทรายล้อม บุษยน้ำพลอยเหลือง

แมวปัดเสวตร หรือ ปัดตลอด เป็นแมวมีขนสีดำมันราบเรียบ ยกเว้นปลายจมูกจนถึงปลายหางมีขาว ดวงตามีสีเหลืองดั่งพลอยสะท้อนแสง ใครเลี้ยงไว้จะช่วยชูชื่อเสียงวงศ์ตระกูลให้เป็นที่รู้จักทั่วไป

กระจอก

มีนามกระจอกนั้น ตัวกลม งามนา
กายดำสีสรรพสม สอดพื้น
ขาขาวเฉกเมฆลม ลอยรอบ ปากแฮ
ตาประสมสีชื้น เปรียบน้ำรงผสาน

กระจอก เป็นแมวดำลักษณะคล้ายแมวสิงหเสพย์ ภาพรวมตัวอ้วนกลมน่ารัก มีขนสั้นดำมัน มีขนสีขาวรอบจมูก หัวกลมไม่ใหญ่มาก หูใหญ่ ตั้งสูงเด่น นัยน์ตาสีเหลืองอมเขียว หางยาวเรียวได้สัดส่วนกับลำตัว ใครเลี้ยงไว้จะช่วยให้มีทรัพย์สินเงินทอง ก้าวหน้าได้เป็นเจ้าคนนายคน

สิงหเสพย์ หรือ แมวโสงหเสพย

นามสิงหเสพย์ชื่อเชื้อ ดำกาย
ขาวที่ริมปากราย รอบล้อม
เวียนเถลิงศอสังข์ปลาย นาสิก อยู่แฮ
ตาดั่งสีรงย้อม หยาดน้ำจางแสง

สิงหเสพย์ หรือ แมวโสงหเสพย แมวชนิดนี้มีขนสั้นสีดำทั้งตัว แต่มีสีขาวอยู่บริเวณรอบจมูก ปาก และรอบคอ นัยน์ตาสีเหลืองทอง หัวกลมไม่ใหญ่มาก หูใหญ่ ตั้งสูงเด่น นัยน์ตาสีเหลืองอมเขียว หางยาวเรียวได้สัดส่วนกับลำตัว ใครเลี้ยงไว้จะช่วยให้มีทรัพย์สมบัติเพิ่ม

การเวก

มีนามการเวกพื้น กายดำ
ศรีสรลักษณนำ แนะไว้
สองเนตรเลื่อมแสงคำ คือมาศ
สันจมูกสีเศวตไซร้ ดุจแม้นแบบเขียน

การเวก เป็นแมวดำอีกชนิดหนึ่ง แต่ไม่ดำทั้งตัว จะมีแต่ปลายจมูกที่มีสีขาวเล็กน้อย นัยน์ตาทั้งสองข้างสีเหลืองอำพันสดใส หากผู้ใดได้เลี้ยงจะให้โชคลาภ เปรียบเหมือนได้ดาบทอง และสมหวังในความปรารถนา

จตุบท

จตุบทหมดเฟ็ดน้อม นามแสดง ไว้นา
โลมสกลกายแสง หมึกกล้อย
สี่บาทพิศเล่ห์แฝง ลายเศวต
ตาเลื่อมสีเหลืองคล้าย เช่นแม้นดอกโสน

จตุบท เป็นแมวสีดำอีกหนึ่ง แต่…ปลายเท้าขึ้นมาจนถึงข้อพับทั้งสี่ข้างเป็นสีขาว (เหมือนสวมถุงเท้า) นัยน์ตาเป็นสีเหลืองคล้ายดอกโสน ตำราโบราณว่าไว้ แมวชนิดนี้คนธรรมดาไม่ควรเลี้ยง ควรเลี้ยงเฉพาะราชนิกูล หรือเชื้อพระวงศ์เท่านั้น (เสริมบุญบารมี)

โกญจา

กายดำคอสุดท้อง ขาขน เลอียดเฮย
ตาดั่งสีบวบกล ดอกแย้ม
โกญจาพจน์นิพนธ์ นามกล่าว ไว้นา
ปากและหางเรียวแฉล้ม ทอดเท้าคือสิงห์

โกญจา (นกกระเรียน) แมวชนิดนี้เป็นแมวสีดำสนิทตลอดทั้งตัว ขนสั้น ไม่มีสีอื่นใดปะปนเลยแม้แต่น้อย ยิ่งไปกว่านั้นยังมีลักษณะเป็นขนเส้นเล็กละเอียดนุ่มและเรียบตรงทั้งลำตัว ส่วนหัวกลมแต่ไม่โต มีปากเรียวแหลม หูตั้ง นัยน์ตาเป็นสีเหลืองอมเขียวหรือทองอ่อน อาจเปรียบได้กับดอกบวบแรกแย้ม หรือทองดอกบวบ รูปร่างสะโอดสะองคล่องแคล่ว หางยาว ปลายหางแหลมตรง อุ้งเท้าทอดคล้ายเท้าสิงห์ มีความสง่างามขณะเคลื่อนไหว หากเลี้ยงดี อยู่ดี ก็จะให้คุณแก่ผู้เลี้ยง

อ้างอิงข้อมูลจาก : ตำราดูลักษณะแมว กวนข้าวทิพย์ – พิธีพิรุณศาตร์ ของ วัดอนงคาราม และวิกิพีเดียว สารานุกรมเสรี

Exit mobile version